พรรค"แมงสาป"กำลังโดน"เวรกรรมไล่ล่า"ตัวมันเอง การเลือกตั้งซ่อมที่นครศรีธรรมราช

การเลือกตั้งซ่อมที่นครศรีธรรมราช คนนครฯจะเลือกพรรคพลังประชารัฐ และ ต่อไปคงต้องมีนายกฯชื่อ ธรรมนัส วงษ์สุวรรณ

ในทางการบริหารเศรษฐกิจรัฐบาลทหารแบบพวกประยุทธ์อาจจะไม่เอาอ่าว
แต่การบริหารอำนาจ และ การมุ่งเพียงยุทธศาสตร์ มีเป้าหมายความต้องการที่ชัดเจน และ ไม่สนใจยุทธวิธี วิธีพวกนี้ทหารเขาไม่เป็นรองใคร
และเขากำลังใช้วิธีนี้ในการบริหารอำนาจ และ มีระบบส่งต่ออำนาจ ที่พลเรือนพรรคการเมืองและนักการเมืองไม่มี
ที่น่าสมเพชที่สุดก็คือพรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อนเลือกตั้งโวยวายเรื่องมารยาท โวยเรื่องตักข้าวในจานเพื่อน
แต่ต้องอาศัยกินเศษเนื้อข้างเขียงของประยุทธ์ ไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรและคราวนี้แพ้คาบ้านตัวเอง
ส่วนพรรคฝ่ายค้าน ไม่เพียงแค่การเลือกตั้งซ่อมคราวนี้ที่แพ้ แต่คราวก่อนๆ ก่อนหน้านี้ก็มีแพ้คาบ้านตัวเอง และเลือกตั้งท้องถิ่นก็มีหลายพื้นที่ที่แพ้คาบ้าน
เลือกตั้งใหญ่คราวหน้าเกิดประยุทธ์กับพวกตั้งพรรคใหม่มาอีกพรรค ทำภาพลักษณ์พรรคใหม่เป็นสีขาว ดึงคนมีชื่อเสียงเข้าพรรค ดึง สส.เจ้าพ่อภูธรพวกที่มีแสงในตัวเข้าพรรค แล้วทำนโยบายแจกเงินเอาใจคนที่สนใจประโยชน์เฉพาะหน้าไป
ประยุทธ์เพิ่งพูดในสภาเมื่อตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวที่แล้วว่า "ระวังคนที่อยู่ข้างๆท่าน กำลังจะมาอยู่กับผม" ที่ประยุทธ์พูดไม่ได้หมายถึงพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนพลังประชารัฐ ประยุทธ์ก็ให้เป็นพรรครวมเสือสิงห์กระทิงแรด เพื่อใช้งานแบบไม่สนวิธีการไปแบบนี้
สุดท้ายประยุทธ์ ประวิตร อนุพงษ์ และธรรมนัส ก็จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆและที่บอกว่า ราศีนายกฯจับธรรมนัส ที่พูดเหมือนพูดเล่น อาจจะเป็นจริงก็ได้หรือใครจะว่ามโนก็แล้วแต่ละคน

การเลือกตั้ง พปชร. ได้เปรียบ?

ก็ไม่ต่างจาก ปชป. ปี 2543 ครับคุมอำนาจรัฐไว้คิดว่าตัวเองจะได้เปรียบ เพราะคุมกลไกกระทรวงมหาดไทยไว้ทั้งหมด ทั้งกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน หากมีเลือกตั้งใหม่ต้องชนะแน่ๆ แม้ว่าผลงานจะห่วยเรื่องแก้ปัญหาต้มยำกุ้งก็ตาม
แต่ผลคือ พรรคเกิดใหม่ ทรท.ได้เสียง 248 ที่นั่ง ถล่มทลาย เพราะคนหนีตายจากปัญหาเศรษฐกิจ ยอมรับผลงานนายชวนไม่ได้



"วัฒนธรรมของคนชนบท"
ระบบราชการนั้น ไม่สามารถสั่งให้ประชาชนเลือกพรรคใดได้ แต่สามารถ "บล็อคไม่ให้ใครจ่ายเงินได้" หากเป็น Money Politic เพราะเขาก็เอาตำรวจไปคุมผู้สมัคร จนไม่สามารถจ่ายเงินได้ แต่ไม่คุมอีกฝ่าย ก็ชนะได้
แน่นั้นมันคือการเมืองแบบ Money Politic ที่ชาวบ้านไม่รู้ว่าจะเลือกใคร เพราะต่างก็พอๆ กัน เลือกใครก็เหมือนกันไม่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ดังนั้นชาวบ้านก็คิดแบบมีเหตุผลคือเลือกคนที่ให้ผลประโยชน์เขามากสุด เมื่อนโยบายเชื่อถือไม่ได้เขาก็รับเงิน
แต่พอ ทรท.มา มีนโยบายจับต้องได้ ชัดเจน ชาวบ้าน "ยังเอาเงินอยู่" เป็น "ค่าเสียโอกาส" แต่ถึงอย่างไรเขาก็ลงคะแนนให้ ทรท.จึงชนะตลอด เพราะชาวบ้านก็เลือก "ผลประโยชน์" แต่ตอนนี้เป็นผลประโยชน์ทางนโยบายที่ชัดเจน
กลไกเลือกตั้งในต่างจังหวัดนั้น ระบบราชการ ที่เป็น "ข้าราชการจริงๆ ที่ถึงระดับตำบลนั้นมี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษา กระทรวงเกษตร และกรมพัฒนาชุมชน หน่วยงานเหล่านี้มีข้าราชการถึงระดับตำบล แต่กระทรวงมหาดไทยสายปกครองมีข้าราชการแค่ระดับอำเภอ คือปลัดอำเภอเท่านั้น
ข้าราชการไม่ออกไปหาเสียงให้พรรคไหนหรอกครับ มันอันตราย หากอีกคนหนึ่งชนะ เราก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นข้าราชการในพื้นที่จริงๆ จะไม่ยุ่ง
ส่วนทหารก็ไม่มีอำนาจไปโน้าน้าวใครในหมู่บ้านจริงๆ หรอกครับ คุณจะเอา นายสิบ จ่า ไปหาเสียงให้หรือชาวบ้านเดี๋ยวนี้จบปริญญาโทก็มี แต่ทหาร เอาปืนไปบล็อคผู้มีอิทธิพลไม่ให้จ่ายเงินได้
ดังนั้นพรรคเพื่อไทย "ลุยทางนโยบาย" แบบ ทรท.เคยทำ โอกาสก็มาสูง เพราะคนเชื่อมือทักษิณอยู่แล้ว แค่ "แคนดิเดท" นายกฯ ต้องดึงดูดคนด้วย "แบบนายกฯปู" ที่คนนิยมในบุคคลิกมาก แบบนี้คะแนนก็ขาดลอย หากหาระดับนี้ไม่ได้ ก็ชนะไม่ถล่มทลายครับ
ดังนั้นปัจจัยสำคัญในการชนะ 251 เสียงคือ
1. แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรค ต้องหาให้ดี มีพลังดึงดูดคน แบบยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
2. นโยบายแบบที่ ทรท.เคยทำ
ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องคิดแบบชิงประธานาธิบดีอเมริกาครับ ต้องส่ง Candidate นายกฯ ที่มีพลัง ทำให้พรรคชนะเลือกตั้งได้ คนในพรรคก็จะได้ตำแหน่งทางการเมือง ไม่ใช่เลือกคนอาวุโสในพรรค แบบนั้นคุณก็ยากจะชนะเลือกตั้ง ไม่ได้อำนาจรัฐ ผู้อาวุโสในพรรคตอนนี้ ทำหน้าที่แมวมอง หาคนที่จะเป็น Candidate ให้ได้ โดยมีโมเดลแบบยิ่งลักษณ์ เป็นตัวอย่าง หากได้แบบ "ทักษิณ" ยิ่งสุดยอด แต่ระดับนั้นมันไม่ง่าย



Share on Google Plus

About บริการทำเว็บไซส์ blogspot สายblogger influencer สายท่องเที่ยว อาหารของกิน บิวตี้ความงาม สร้างด้วยblogspot suraphan x2

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น