ตำราต้องห้าม ในศาสนาอิสลาม ห้ามซื้อ ห้ามขาย ห้ามอ่าน ห้ามศึกษา และห้ามมีไว้ในครอบครองโดยเด็ดขาด.

 แม้แต่อุละมาอ์แห่งอัล-อัซฮัร ประเทศอียิปต์ ยังสั่งให้ทำลายตำรามหาเวทย์เล่มนี้ทิ้งเสีย !!!!

ชื่อตำราต้องห้าม คือ "ชัมสฺ อัล-มะอาริฟ อัล-กุบรอ ( شمس المعارف الكبرى )"
ประพันธ์โดย : เชคอะห์มัด บิน อะลีย์ บิน ยูสุฟ อัล-บูนีย์ อัล-มาลิกีย์ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ.622 ท่านเป็นหนึ่งในนักซูฟีย์

ตำราเล่มนี้ เป็นหนึ่งในตำราที่มีการพูดถึงกันมากที่สุดในโลกอาหรับ ถึงแม้ว่าตำรานี้จะถูกเขียนมาตั้งแต่ในยุคโบราณ แต่จวบจนถึงยุคปัจจุบันนี้ เนื้อหาจำนวนมากในตำราเล่มนี้ก็ยังคงถูกเก็บไว้เป็นความลับ ผ่านรหัสตัวเลขที่ถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างแปลกประหลาด ซึ่งยังไม่มีใครสามารถเข้าใจเนื้อหามันได้อย่างถ่องแท้
ตำราเล่มนี้ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ส่วน รวมอยู่ในเล่มเดียวกัน โดยมีความหนาประมาณเกือบ 600 หน้า เป็นตำราที่มีเนื้อหาลึกลับ ในตำราได้พูดถึงความเร้นลับต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังตัวอักษรในอัล-กุรอาน, ความพิเศษของอายะฮ์ต่างๆ,
ความเร้นลับของสูเราะฮ์ อัล-ฟาติหะฮ์, ความลับและความพิเศษของบิสมิลลาฮ์,
นามชื่อของอัลลอฮ์และสิ่งพิเศษที่ถูกซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง, เรื่องราวของญิน(อมนุษย์), แนวทางแห่งไสยศาสตร์, พิธีกรรม, ศาสตร์แห่งเวทมนต์, คาถาอาคม, โหราศาสตร์,
วิธีการสื่อสารกับญินและการควบคุมพวกมัน, ในตำรายังประกอบด้วยอักขระเครื่องรางจากอักษรโบราณ และตารางการวางตัวอักษรในช่องต่างๆ คล้ายยันต์ ที่ไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งอาจนำไปสู่การชีริกได้
ตำราเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ออกมาหลายครั้งมากจวบจนปัจจุบัน จึงทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากมายว่า บางส่วนของตำราเล่มนี้อาจมีการถูกบิดเบือนและถูกตัดทอนเนื้อหาบางส่วนออกไป
ผู้คนมากมายได้พยายามหาซื้อตำราเล่มนี้มาไว้ในครอบครอง ไม่ว่าราคาของมันจะสูงสักขนาดไหนก็ตาม และพวกเขาพยายามปฏิบัติตามสิ่งต่างๆ ที่ระบุเอาไว้ในตำรา เพราะในตำราได้บอกถึงวิธีการที่จะทำให้คุณได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ ทั้งในด้านสุขภาพ ด้านอำนาจ ด้านเงินทอง และด้านความสำเร็จได้ภายในระยะเวลาอันสั้น


ในตำราเล่มนี้ อัล-บูนีย์ได้แบ่งเนื้อหาออกเป็น 40 บท โดยในแต่ละบทต่างมีเนื้อหาที่ลึกลับแตกต่างกันไป ซึ่งยากที่จะเข้าใจได้ แต่ส่วนหนึ่งจากหัวข้อที่มีความโดดเด่นในตำราเล่มนี้ คือ
1.นามชื่อของอัลลอฮ์ ตะอาลา
2.นามชื่อต่างๆ ที่อัล-บูนีย์อ้างว่า แท้จริงท่านนบีอีซา (อ.ล.)​ เคยใช้มันในการชุบชีวิตคนตายในยุคอดีต
3.ความเร้นลับที่ถูกซ่อนเอาไว้เบื้องหลังอักขระอักษรโบราณ
และยังมีหัวข้ออื่นๆ ที่น่าสนใจ แต่ทว่าสติปัญญาของพวกเรามิอาจบรรลุเข้าถึงแก่นแท้ของเนื้อหาในตำราเล่มนี้ได้
มีคำพูดร่ำลือกันอย่างมากมายว่า มีบางคนที่ได้เปิดอ่านและศึกษาตำราเล่มนี้แค่เพียงไม่กี่หน้า ก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นกับตัวพวกเขา แต่ทว่ายังไม่มีหลักฐานใดสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์เหล่านั้นได้
เชคอะห์มัด บิน อะลีย์ อัล-บูนีย์ ผู้แต่งตำราเล่มนี้เป็นเพียงผู้เดียวที่ล่วงรู้ศาสตร์ต่างๆ ในตำราเล่มนี้ของเขา


ในยุคของอัล-บูนีย์นั้น ผู้คนมากมายให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของจิตวิญญาณ เรื่องของเวทมนต์ไสยศาสตร์ อัล-บูนีย์ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ปลีกตัวออกจากผู้คน และมักจะเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งอยู่เรื่อยๆ
อัล-บูนีย์ เคยเดินทางไปยังตูนีเซีย อันดาลุส(สเปนในปัจจุบัน)​ อียิปต์ มักกะฮ์ ปาเลสไตน์ อิรัก โดยอัล-บูนีย์ ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศแอลจีเรีย ในเมืองบูนะฮ์ ในปี ฮ.ศ.572 และเสียชีวิตในปี ฮ.ศ.622
อัล-บูนีย์ เคยแต่งตำราเอาไว้มากมายเกือบ 40 เล่ม ทั้งที่เป็นตำราศาสนาและตำราสามัญ แต่ทว่าอัล-บูนีย์ เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมากๆ ในด้านสามัญ ทั้งด้านดาราศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคณิตศาสตร์นั้น ท่านถือว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งเลยทีเดียว ท่านเข้าใจศาสตร์แห่งตัวอักษรอย่างลึกซึ้งมาก จนกระทั่งผู้คนในยุคนั้นต่างพูดกันว่า "แท้จริงแล้ว บรรดาตัวอักษรกำลังคุยอยู่กับท่าน"
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวที่ร่ำลือกันเกี่ยวกับตัวท่านว่า ท่านเป็นอะฮ์ลุลค็อตวะฮ์ (ผู้ที่เดินทางไกลได้ในชั่วพริบตา สามารถข้ามทะเล ข้ามภูเขาได้ด้วยการก้าวเท้าแค่ครั้งเดียว)​
และยังมีการร่ำลือกันว่า ท่านอัล-บูนีย์ จะเดินผ่านไปยังบ้านของบรรดาสตรีที่ตั้งครรภ์ แล้วท่านจะมอบพืชผักและผลไม้ที่ไม่ได้มีในฤดูกาลนั้นๆ ให้แก่พวกนาง และท่านจะกล่าวกับพวกนางว่า "จงรับไปเถอะ และทำตามความต้องการของพวกเธอ เราเพียงหวังว่าอัลลอฮ์จะมอบสิ่งดีๆ ให้แก่เรา อันเนื่องมาจากการทำความดีกับพวกเธอ"
ร่ำลือกันว่าตำราเล่มนี้ ต้นฉบับของมันอยู่ที่ประเทศแอลจีเรีย แต่ความจริงแล้วตำราต้นฉบับอยู่ในห้องสมุดของประเทศอังกฤษ
และยังร่ำลือกันว่า ในตำราเล่มนี้ประกอบด้วยเครื่องรางต่างๆ และยังมีการวางตัวเลขทางคณิตศาสตร์ที่แปลกประหลาด จึงมีความเป็นไปได้ว่า ตำราเล่มนี้อาจจะมีผู้ที่ไม่ใช่มนุษย์ร่วมเขียนด้วย


เรื่องเล่าที่ 1 เกี่ยวกับผู้ที่ศึกษาตำราเล่มนี้ คือ : มีชายอายุ 50 ปี คนหนึ่ง ซึ่งชายคนนี้มีกิจการร้านขายของชำเป็นของตนเอง ซึ่งลูกค้าที่ไปซื้อของร้านนี้ มักจะเห็นชายคนนี้ถือตำรา "ชัมสฺ อัล-มะอาริฟ อัล-กุบรอ" เล่มนี้อยู่ตลอดเวลา และชายคนนี้มักจะบอกกับลูกค้าเสมอว่า ตำราเล่มนี้ช่วยทำให้ร้านของเขามีรายได้ดี อยู่มาไม่นาน ชายคนนี้ก็ได้ขายกิจการร้านของเขาให้คนอื่น แล้วเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั่งมาเจอเขาอีกทีในสภาพกลายเป็นคนไร้บ้านนอนหมดสภาพอยู่ริมถนน
เรื่องเล่าที่ 2 เกี่ยวกับผู้ศึกษาตำราเล่มนี้ คือ : มีเด็กสาวอายุ 17 ปี คนหนึ่ง เธอเห็นผู้คนในโลกโซเชี่ยลพูดถึงตำรา "ชัมสฺ อัล-มะอาริฟ อัล-กุบรอ" เล่มนี้กันเยอะมาก เธอจึงได้ทำการดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เมื่อเธอเริ่มเปิดอ่านตำราเล่มนี้ เธอก็เริ่มสนใจอักขระเครื่องรางที่ผู้เขียนอ้างว่าจะทำให้ความจำเป็นเลิศ แล้วเธอก็เริ่มทำตามสิ่งที่ระบุในตำรา แล้วความวิบัติก็เริ่มเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ เธอเล่าว่า ทุกครั้งที่เธอเริ่มอ่านอักขระเครื่องรางในตำราเพื่อทำพิธี สมองของเธอมันแทบจะระเบิด เธอนอนฝันร้ายแทบทุกคืน และเธอจะได้ยินเสียงตี๊ดอยู่ในหูตลอดเวลา ยกเว้นตอนที่เธอฟังอัล-กุรอาน แม้ว่าอักขระเครื่องรางนี้จะทำให้เธอความจำดีขึ้น แต่ชีวิตของเธอกลับเจอแต่สิ่งเลวร้าย ดังนั้น เธอจึงได้ลบไฟล์ตำรานี้ทิ้งไป แล้วหันมาฟังอัล-กุรอานอยู่ตลอดเวลา
ท่านเชค ดร.อับดุลฟัตตาห์ กุดัยช์ อัล-ยาฟิอีย์ หะฟิซอฮุลลอฮ์ เจ้าของตำรา "มะวาฮิบุลฟัตตาหิลกะรีม" และได้สอบถามท่านว่า "การอ่านตำรา ชัมสฺ อัล-มะอาริฟ อัล-กุบรอ ของท่านเชค อัล-บูนีย์ หุก่มว่าอย่างไร ??" และท่านได้ตอบกลับมาในวันที่ 10/11/65 ว่า..
ابعد منه.
"จงหลีกห่างจากตำรานี้".
และข้าพเจ้า(ผู้โพสต์)​ ได้ส่งข้อความไปยังสถาบันชี้ขาดปัญหาศาสนาดาอิเราะตุลอิฟตาอ์ แห่งประเทศจอร์แดน และได้สอบถามว่า "การอ่านตำรา ชัมสฺ อัล-มะอาริฟ อัล-กุบรอ ของท่านเชค อัล-บูนีย์ หุก่มว่าอย่างไร ??" และทางสถาบันดาอิเราะตุลอิฟตาอ์ แห่งประเทศจอร์แดน ได้ตอบกลับมาในวันที่ 10/11/65 ว่า..
كتاب "شمس المعارف الكبرى" من كتب السحر والشعوذة والخرافة التي يحرم قراءتها واقتناؤها وبيعها وشراؤها، كما يحرم العمل بما جاء فيه.
ويجب على المسلم أن يتيقن أن النفع والضرر بيد الله، وهو سبحانه يصرف الأمور كيف يشاء، ولا يرد كل ما يصيبه في حياته إلى السحر والشعوذة.
"ตำรา ชัมสฺ อัล-มะอาริฟ อัล-กุบรอ เป็นตำราที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ มนต์ดำ และเรื่องประหลาดลี้ลับ ซึ่งเป็นตำราที่ห้ามอ่าน ห้ามมีไว้ครอบครอง ห้ามขาย ห้ามซื้อ และห้ามปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกระบุเอาไว้ในตำรานั้น
และจำเป็นสำหรับมุสลิมต้องเชื่อมั่นว่าทั้งคุณและโทษนั้น ล้วนมาจากอัลลอฮ์ทั้งสิ้น และอัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้ทุกอย่างบังเกิดขึ้นตามเจตนารมณ์ของพระองค์ทั้งสิ้น โดยเขาต้องไม่คิดว่าทุกสิ่งที่ประสบกับชีวิตเขานั้น มาจากไสยศาสตร์และมนต์ดำ".
สถาบันชี้ขาดปัญหาศาสนาดารุลอิฟตาอ์ แห่งประเทศอียิปต์ โดยได้สอบถามว่า "การอ่านตำรา ชัมสฺ อัล-มะอาริฟ อัล-กุบรอ ของท่านเชค อัล-บูนีย์ หุก่มว่าอย่างไร ??" และทางสถาบันดารุลอิฟตาอ์ แห่งประเทศอียิปต์ ได้ตอบกลับมาในวันที่ 13/11/65 ว่า..
لا يجوز لك ذلك، وعليك إتلاف هذا الكتاب.
"ไม่อนุญาตให้ท่านอ่านตำราเล่มนี้ และท่านจำเป็นต้องทำลายตำราเล่มนี้ทิ้งเสีย (หากว่ามีมันอยู่ในการครอบครอง)​".











Share on Google Plus

About บริการทำเว็บไซส์ blogspot สายblogger influencer สายท่องเที่ยว อาหารของกิน บิวตี้ความงาม สร้างด้วยblogspot suraphan x2

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น