เจ้าสัวธนินท์บอกว่า การขายที่ดินให้ต่างชาติไม่ใช่การขายชาติ แต่เป็นการดึงคนมาลงทุน

 ความคิดนี้ผมว่าจะสนับสนุนนะ ถ้าเป็นการลงทุนแบบมีการตอกเสาเข็ม สร้างโรงงาน มีผลิตผล หรือ FDi

แต่ที่คุณประยุทธ์จะทำน่ะ มันคือการแลกกับเศษของเงินเศรษฐีต่างชาติแค่ 40ล้านบาท เพื่อจูงใจให้เขามาซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งก็เกิดมาจากการที่รัฐไปกู้เงินมาออกพันธบัตรนั่นแหละขายอีกทีหนึ่ง

จะบอกว่าก็มีกองทุนอย่างอื่นให้เลือกลงทุนได้ด้วยนี่ไม่ใช่จะมีแต่พันธบัตรรัฐบาลอย่างเดียว ขอโทษที! อย่างอื่นมันไม่มีเงินปันผลนะ แต่พันธบัตรรัฐบาลเนี่ย มันมีเงินปันผลเป็นแรงจูงใจให้ด้วย แล้วต่างชาติเขาจะเลือกลงทุนตัวไหนล่ะ?

เศรษฐีต่างชาติบางคนที่ฉลาดหน่อย ก็ไม่ต้องควักกระเป๋าเลย แค่ไปกู้จากญี่ปุ่นที่ดอกเบี้ยโคตรจะต่ำ เอาเงินมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย แล้วเอาเงินปันผลจากพันธบัตรไทยไปชำระต้นชำระดอกให้ญี่ปุ่น หมุนไปหมุนมาก็จับเสือมือเปล่าแล้ว

เจ้าสัวธนินท์ยังบอกว่า ต่างชาติเขามาซื้อที่ดิน ที่ดินก็อยู่ที่เดิม เขาไม่ได้แบกที่ดินออกไปจากประเทศไทยได้ซะเมื่อไหร่

ท่านครับ! ท่านกำลังจะเปรียบเทียบกับตัวท่านเองใช่ไหมครับ?

ต่างชาติไม่ได้แบกที่ดินออกไปได้ก็จริง แต่เขาเข้ามาครอบครองกรรมสิทธิ์ มันก็กลายเป็นของเขาแล้ว เหมือนที่ท่านซึ่งเป็นคนจีนมาครอบครองที่ดินในไทยกี่แสนไร่แล้วล่ะ?

ท่านก็ไม่ได้แบกที่ดินกลับไปประเทศท่าน แต่แปลงสินทรัพย์เป็นทุน และเป็นทุนที่ใหญ่มหึมา มหาศาล กลายเป็นทุนผูกขาดด้วยซ้ำ แล้วท่านก็ส่งผลกำไรจากการดูดคนไทย ทรัพยากรของไทยกลับไปประเทศท่านในรูปแบบอื่นแทน ใช่ไม่ใช่ ?

ที่สำคัญในขณะที่คนไทยเจ้าของประเทศยังไม่มีที่ดินทำกิน แต่การที่ให้คนต่างชาติเข้ามาซื้อกรรมสิทธิ์ที่ดินในไทยได้ ทำให้ที่ดินราคาสูงขึ้นเกินกว่าคนไทยจะมีปัญญาซื้อ มันเท่ากับลดโอกาสคนไทยเป็นเจ้าของที่ดินในประเทศตัวเอง ต้องกลายเป็นทาสทุนต่างชาติจนชั่วชาติเลย

แทนที่จะขายกรรมสิทธิ์ ทำไมไม่ใช้วิธีให้เช่า 99 ปีแบบพี่โทนีคิดจะทำ ซึ่งมันก็กระตุ้นเศรษฐกิจได้ เหมือนที่ประเทศจีนของท่านใช้กับอังกฤษ (เกาะฮ่องกง) และ โปรตุเกส (เกาะมาเก๊า) พอครบ 99 ปี ที่ดินก็กลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของประเทศ โดยอัตโนมัติ

แต่การขายกรรมสิทธิ์ขาดให้เขา เขาก็อยู่ยันรากงอกแบบท่านนั่นแหละ อยากจะเอาคืนก็ต้องซื้อกลับ ซึ่งรัฐบาลไทยมีปัญญาซื้อที่ดินที่ CP ครอบครองกรรมสิทธิ์ไว้ไหมล่ะตอนนี้ ???

สลิ่มบอกกฎหมายนี้มีมาแต่สมัยทักษิณ อธิบายข้อแตกต่าง
กฎหมายนี้เกิดจาก พล.อ.ชวลิต ไปกู้ iMF มา ถูก iMF บังคับให้ทำตามแผนฟื้นฟูที่เขาเขียนให้ เพราะเขากลัวจะหนี้สูญ
แผนฟื้นฟูก็เช่น แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นของเอกชนเพราะรัฐทำเองมีแต่เจ๊ง, ให้ต่างชาติเช่าที่ดิน/ซื้อที่ดินได้ จะได้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามา

การจะทำตามแผนฟื้นฟูได้ ต้องออกเป็นกฎหมายบังคับ "ชวน หลีกภัย" มารับตำแหน่งต่อจากชวลิต ก็ออกกฎหมายที่เรียกว่าขายชาติ 11 ฉบับ

พี่โทนีมารับไม้ต่อ ก็สานงานกันไปตามกฎหมาย แต่ขายกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ต่างชาติในยุคพี่โทนี มีข้อจำกัดมากมาย โดยเฉพาะให้มาลงทุนผ่าน BOI ไม่ใช่ให้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลแบบนี้ ต่างชาติจึงแทบไม่สนใจซื้อ ตั้งแต่ปี45 ที่มีกฎหมาย

จนถึงปีนี้ มีสถิติคนต่างชาติซื้อที่ดินแบบครอบครองกรรมสิทธิ์แค่ 8 คน มันไม่ใช่แบบประยุทธ์ทำ ที่แทบจะประเคนให้ คนจีนจึงไหลเข้ามามหาศาล และไม่ได้มาลงทุนแบบยั่งยืน ออกดอกผลกำไรอะไรด้วย

อย่างกรณีนี้ก็เป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์​ของทุนจีนสีเทาตู้​ ห่าว​ เช่นกัน​ ซึ่งบริษัทพัฒนา​อสังหาริมทรัพย์​เขาก็ทำสินค้าขาย​ เจ้านี้เป็นของใครก็ไปหาข้อมูล​ดู​
เมื่อคนซื้อทำผิดเป็นการฟอกเงินทรัพย์สิน​ก็ถูกยึด​ เป็นความผิดของคนฟอกเงิน​ ไม่ใช่ความผิดของคนขายคอนโด

สลิ่มระดมกำลังเบี่ยงประเด็น "ตู้ห่าว" จากความผิดของรัฐบาลประยุทธ์ บิดให้เป็นความผิดของพรรคเพื่อไทย

Share on Google Plus

About บริการทำเว็บไซส์ blogspot สายblogger influencer สายท่องเที่ยว อาหารของกิน บิวตี้ความงาม สร้างด้วยblogspot suraphan x2