ดร. จอห์น เบิร์กแมน ได้เปิดเผยว่า วัคซีนปัองกันไข้หวัดใหญ่ที่ใช้ในการต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์ล่าสุด เอช๓เอ็น๒ แทบจะไม่ได้ผล และมันยังถูกบังคับให้ออกมาสู่สาธารณชนโดยใช้กลยุทธ์นี้เพื่อเป็นการแพร่กระจายโรคมะเร็ง
เนื่องจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) รายงานว่า สายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ในขณะนี้มีความร้ายกาจเป็นที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่อาการที่รุนแรงจนเสียชีวิตกันมากขึ้น ผู้คนนับหมื่นได้เสียชีวิตไปแล้วในช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่นี้ ดังนั้นเมื่ออัตราการตายถีบตัวสูงขึ้น ความหวาดกลัวและผู้คนก็จะต้องมารอคิวรับการฉีดวัคซีนกันมากขึ้นด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันบริษัทยายักษ์ ก็โกยเงินเข้าเก๊ะกันอานในทุกกรณีตามแบบฉบับ
ขณะนี้ ดร. เบิร์กแมน ได้แสดงหลักฐานที่โผล่ออกมาให้เห็น ว่า การฉีดวัคซีนอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของผู้คนมากขึ้นกว่าที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง
เนื่องจาก แอนนา ทรีค เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้รับความรุนแรงจากไวรัส เอช๓เอ็น๒ นี้ และได้เสียชีวิตลงเนื่องจากเชื้อมีการกลายพันธุ์ ซึ่งเกิดมาจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นี้
ก่อนหน้านั้น ทาง สนข. เอบีซี เคยได้รายงานไว้ว่า, "แอนนา ทรีค ได้ยืนยัน ว่าสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ของปีนี้ ได้ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปหลายพันคน สาเหตุมาจากตัววัคซีนเองนั่น และฉันก็เชื่อว่าประสิทธิภาพในอัตราที่ต่ำเกี่ยวกับวัคซีนไวรัสในปีนี้ เกิดมาจากการกลายพันธุ์ของไวรัสที่ถูกทำขึ้นในการผลิตวัคซีนเอง นั่นแหล่ะ มันจึงเป็นส่วนของเหตุผล ที่ทำให้กรณีไข้หวัดใหญ่นี้ได้แพร่กระจายไปมากขึ้น"
ทรีค ยังได้กล่าวอย่างชัดเจนอีกว่า
"อย่างน้อยการฉีดวัคซีนก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้ แต่ทว่ามันก็ไม่ใช่ต้นตอของปัญหาทั้งหมด"
"อย่างน้อยการฉีดวัคซีนก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้ แต่ทว่ามันก็ไม่ใช่ต้นตอของปัญหาทั้งหมด"
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพท่านอื่น ๆ เห็นด้วยกับคำแถลงของทรีค ที่รวมไปถึง ดร. เมร์โคล่า ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐระดับผู้นำโลก ในด้านอันตรายของวัคซีน คำพูดนั้นเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ที่เกิดจากวัคซีนนี้, โดยเมร์โคล่าได้กล่าวไว้ว่า "มันไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดใด ๆ ทั้งสิ้น"
ดร. เมร์โคล่า ไม่ได้พยากรณ์โรคแต่เพียงลำพัง หากแต่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และแพทย์ปริญญาเอกท่านอื่น ๆ ที่นับไม่ถ้วนต่างก็เห็นพ้องต้องกันไปทุกคน
* ความต้องการวัคซีนกำลังเพิ่มขึ้น
ปัญหาเป็นดังนี้ แม้ว่ามีผู้คนล้มป่วยมากขึ้น ก็จะยิ่งมีผู้คนที่จะมาเข้าคิวรอการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กันมากขึ้นเช่นกัน และสถานการณ์เขวี้ยงบอลจากที่แย่อยู่แล้ว ก็ยิ่งจะกลายเป็นแย่ลงไปอีก
ตามที่ทรีคเคยได้กล่าวไว้ ว่าหากผู้นั้นมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอในตอนต้น ท้ายสุดผู้นั้นก็ต้องถึงจุดอวสานแห่งชีวิต
สิ่งนี้ทำให้ร่างกายของเด็กหรือผู้สูงอายุต้องต่อสู้กับไวรัสหนักหน่วงยิ่งขึ้นกว่าผู้คนวัยหนุ่มสาว
ถึงแม้ว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ปีนี้ได้ถูกพบเพียงแค่ ๑๐% ก็จริงอ่ยู่ แต่รัฐบาลก็ยังคงยืนยันว่ามันจำเป็นที่จะต้องให้ประชาชนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน ทั้ง ๆ ที่มันอันตรายอย่างเป็นที่ประจักษ์
คำตอบ ?
แพทย์ด้าน allopathic กล่าวว่า พวกเราควรรีบไปพบแพทย์ของพวกเราเป็นการณ์ด่วนเท่าที่พวกเราจะพบพวกเขาได้ เพื่อที่พวกเขาจะได้รักษาพวกเราด้วยยาต้านไวรัสเหล่านั้น
อันตรายของทามิฟลู (ชื่อยาแก้หวัด) ไม่ปกปิดเป็นความลับ แม้ว่ามันจะสามารถลดไข้ได้เพียง ๑๒ ชั่วโมง ขั้นตอนที่แนะนำคือให้พักอยู่ที่บ้านและเชื้อไวรัสนี้ก็จะไม่ถูกแพร่กระจายออกไป
อาการต่าง ๆ ปกติแล้วมักเกิดขึ้นหลังจาก ๑ ถึง ๓ วันของการติดเชื้อ และผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะฟื้นตัวได้เองในช่วงเพียงสัปดาห์เดียว ดังนั้นจงอย่าเพิกเฉยต่ออาการของท่าน แม้จะมีไข้หนาวสั่น ปวดศีรษะ ไอแห้ง ปวดเมื่อยตามข้อและกล้ามเนื้อ ก็อย่าได้นิ่งนอนใจเป็นอันขาด
allopathy : ระบบการปฏิบัติทางการแพทย์ที่มีจุดมุ่งหมายในการต่อสู้กับโรคโดยใช้วิธีการรักษา (เช่นยาหรือการผ่าตัด) ที่ก่อให้เกิดผลแตกต่างหรือไม่สามารถใช้ร่วมกับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา - เปรียบเทียบ homeopathy
allopathy : วิธีการรักษาโรคโดยใช้สารที่ออกฤทธิ์ตรงข้ามหรือเข้ากันไม่ได้กับภาวะของโรคที่กำลังรักษา
