ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กรณีคดีทุจริตทำสัญญาลวงซื้อขายถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า 112,500 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นที่กระทรวงพาณิชย์ โดยการกระทำของนายจุรินทร์กับพวก ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ได้ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต จนได้ชื่อว่าเป็นยุคที่การทุจริตเฟื่องฟูเบ่งบานมากที่สุด ขาดความรอบคอบ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต ปกปิดการกระทำความผิดของตนเองและพวกพ้อง
.
1. นายจุรินทร์ มีเจตนาพิเศษแต่งตั้ง นายสุชาติ เตชจักรเสมา อดีตสมาชิกพรรค ปชป. และเป็นคนสนิทของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคมานาน แต่ไม่มีประวัติบริหารองค์กรขนาดใหญ่ให้มาดำรงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อเอื้อประโยชน์ตนและพวกพ้อง มีการสมรู้ร่วมคิด แบ่งแยกหน้าที่กันกระทำ
.
2. มีการทำสัญญาซื้อและสัญญาขายกับบริษัทที่ผู้บริหารมีคดีอาญาติดตัวอยู่เป็นจำนวนมาก หลายสัญญาก็พบความผิดปกติของบริษัทคู่สัญญา ทั้งเป็นบริษัทไม่มีวัตถุประสงค์ในการทำธุรกิจถุงมือยาง, ไม่มีที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยและผู้ลงนามในสัญญา, ไม่มีหนังสือมอบอำนาจจากบริษัท
.
3. โดยเฉพาะในสัญญาขายถุงมือยางให้กับบริษัทเอกชน 7 สัญญา จำนวน 826 ล้านกล่อง ราคาเฉลี่ยกล่องละ 225 บาท มูลค่าทุกสัญญารวม 186,100 ล้านบาท ไม่มีการเรียกหลักประกันสัญญา ผิดวิสัยการค้า โดยข้อพิรุธทั้งหลายทำให้มองได้ว่า 'เป็นสัญญาลวง ไม่มีสัญญาอยู่จริง
.
4. อคส. ทำสัญญาซื้อถุงมือยางจากบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำนวน 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท เพิ่งจัดตั้งก่อนทำสัญญาเพียง 2 เดือนและมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ซึ่ง อคส.ต้องชำระเงินค่าสิ่งของล่วงหน้า 2,000 ล้านบาทให้กับผู้ขายภายใน 3 วัน ปรากฎว่ามีการกำหนดในหลักประกันสัญญา 200 ล้านบาทมอบให้กับผู้ซื้อภายใน 7 วัน จึงกลายเป็นว่าเมื่อรับเงินจาก อคส.ไปแล้ว 2 พันล้านบาท ก็นำเงินนั้นมาทอนคืนให้ อคส. ซึ่งผิดปกติวิสัยและเป็นเหตุผลที่มองได้ว่าเป็นการทำสัญญาลวง
.
4.1 ในสัญญาส่วนหนึ่งระบุเป็นการซื้อถุงมือยางไนไตร แต่สัญญาเดียวกันกลับระบุให้ผู้ขายส่งมอบถุงมือยางไนไตรและถุงมือยางลาเท็กซ์ ซึ่งเป็นคนละประเภทอย่างชัดเจน
.
5. อคส. ทำสัญญาซื้อถุงมือยางไนไตรและถุงมือยางลาเท็กซ์ กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ฯ แล้ว อคส.จะมีถุงมือยางไนไตรไปส่งมอบให้กับผู้สั่งซื้อทั้ง 7 สัญญาได้อย่างไร นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้มองได้ว่าเป็น “การทำสัญญาลวงเป็นฉากบังหน้า” เพื่อทุจริตนำเงิน 2 พันล้านบาท ออกจาก อคส.
.
6. มี ‘คลิปเสียง’ พูดถึงการดำเนินการนโยบายนี้ร่วมกันของผู้เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน โดยระบุถึง การรอให้รัฐมนตรีกดเดิน และอ้างว่า ประธาน อคส. มีส่วนทำให้การดำเนินการเรื่องนี้สำเร็จ
.
7. เมื่อมีผู้พบความผิดปกติของขบวนการนี้ (ความแตก) นายจุรินทร์ ละเว้นไม่ดำเนินการใดๆ ประธาน อคส. กับพวก ไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะกลัวนายสุชาติฯ จะเปิดเผยความจริงและพยายามตัดตอนเรื่องนี้ให้จบที่ ผอ.อคส.
.
8.แม้ต่อมาพลเอกประยุทธ์ จะสั่งย้าย รักษาการ ผอ.อคส.ไปประจำสำนักนายกฯ นายจุรินทร์ ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับประธาน อคส. และผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หรือติดตามเงินคืน
.
9. ทั้งหมดเป็นการวางแผนร่วมมือกันทุจริตอย่างเป็นระบบ เพื่อเอาเงินหลวงจาก อคส.มาเป็นประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง ซึ่งขณะนี้เงินหลวง 2 พันล้านบาทได้อันตรธานหายไป เป็นการ “ช่วยกันคิด แบ่งแยกหน้าที่กันทำ ร่วมกันหาประโยชน์ อย่างไร้ยางอาย”
โยงนายกฯ ปล่อยปละละเลยเพิกเฉย พวกทุจริต
10. พลเอกประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี หัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดิน ละเว้นการปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ด้วยความซื่อสัตย์ รอบคอบ ระมัดระวัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนในการปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ เงินจำนวน 2 พันล้านบาท
.
11. กรณีนี้ การกระทำผิดเกี่ยวโยงไปถึง นายจุรินทร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ กลับนิ่งเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อนไม่ดำเนินการใดๆ เพียงออกคำสั่งย้ายรักษาการ ผอ.อคส. กลับไม่ดำเนินการตรวจสอบและใช้อำนาจระงับยับยั้งการโอน ย้าย ถ่ายเทเงินของผู้ทุจริต ทั้งที่ พลเอกประยุทธ์สามารถที่จะอายัดเงินจำนวน 400 ล้านบาท
.
12. จากรายงานกรรมาธิการการพาณิชย์ ระบุว่าระหว่างวันที่ 2-25 ก.ย 2563 ยังมีเงินอยู่ในบัญชีของบริษัทและกรรมการบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำนวน 400 ล้านบาท แต่เพราะพลเอกประยุทธ์ฯ ไม่ดำเนินการตรวจสอบทำให้เงินจำนวน 400 ล้านบาท ถูกยักย้าย ถ่ายโอน หนีไปจนปัจจุบัน ไม่มีเงินคงเหลือที่จะอายัดได้
.
13. พลเอกประยุทธ์ ไม่แสดงออกให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ใช้ความระมัดระวังเพื่อรับฟังปัญหาและการติดตามแก้ไขปัญหา กลับนิ่งเฉย ปล่อยให้นายจุรินทร์ , ประธาน อคส. และ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กับพวก ยังลอยนวล/ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ อคส. ตัวเล็กๆ มาวิ่งแจ้งความกล่าวโทษต่อกองปราบ/ปปง. โดยลำพัง เกรงกลัวว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล
cr- เพจพรรคเพื่อไทย
จุรินทร์ตั้งบอร์ด อคส.
บอร์ดอคส.กับ ผอ.อคส. ไปทำสัญญาซื้อถุงมือยาง โดยอ้างว่า มีคำสั่งซื้อถุงมือยาง เลยจะไปซื้อถุงมือยางมาขาย จำนวน 500 ล้านกล่อง เพื่อมาขายเอากำไร
แต่เหมือนเป็นสัญญาลวง เพราะไม่มีคำสั่งซื้อจริง
พอทำสัญญาซื้อแล้วรีบจ่ายเงินมัดจำจำนวน 2 พันล้าน แล้วก็ไม่เกิดการซื้อมาขายไปจริง เป็นการทุจริตหลอกเอาเงินมัดจำ
ฝ่ายค้านกล่าวหาว่า รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีไม่จัดการกับการทุจริต และเงิน 2 พันล้านก็ตามคืนไม่ได้
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ปล่อยปละละเลยให้เกิดแบบนี้ได้อย่างไร
การทุจริตถุงมือยางใน อคส.เป็นการทุจริตแบบหน้าด้าน ความจริงง่ายต่อการป้องกันมากถ้าผู้มีอำนาจตรวจสอบและดูแล เพราะแค่เริ่มจากสัญญาลวงว่า มีการสั่งซื้อถุงมือยาง 800 ล้านกล่อง ถ้ามีการสั่งซื้อจริง อคส.แค่เรียกเงินมัดจำล่วงหน้าจากคนสั่งซื้อ ก็ไม่ต้องไปควักเงินมัดจำการซื้อของเอง เอาเงินผู้ซื้อนั่นแหละมามัดจำ
แต่ความจริงคือ มันเป็นคำสั่งซื้อลมที่ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเอาเงินมัดจำ
และที่ประหลาดหนักถ้าผู้มีอำนาจเอาใจใส่ และ ไม่ปิดตารู้เห็นเป็นใจ แค่อคส.บอกว่า ซื้อมาราคากล่องละ 225 บาทเพื่อมาขาย 225 บาทเพื่อเอากำไร คำถามคือ ขายเท่ากับซื้อมาแล้วจะเอากำไรมาจากไหน
และถ้าฉุกคิดโดยคอมมอนเซนส์ อยู่ดีๆทำไมถึงมีบริษัทมาสั่งซื้อถุงมือยางกับ อคส.ทั้งๆที่ไม่เคยผลิตไม่เคยขายมาก่อน และทำไมไม่ไปซื้อกับผู้ผลิตโดยตรง จะไม่ได้ราคาถูกกว่าซื้อผ่านคนกลางอย่าง อคส.หรือ
พูดง่ายๆว่า ถ้าผู้มีอำนาจที่กำกับดูแลไม่แกล้งโง่ การทุจริตทำนองนี้เกิดไม่ได้ง่ายขนาดนี้หรอก
ที่สำคัญที่สุดคือ พอทำสัญญาซื้อได้ 3 วันก็จ่ายเงินมัดจำก่อน 2,000 ล้าน แล้วให้มาวางหลักประกันสัญญาหลังจากรับเงินมัดจำแล้ว มันไม่เคยมีสัญญางานกับหน่วยงานภาครัฐที่ไหนทำแบบนี้ได้
วันเข้าทำสัญญาไม่ว่า สัญญาจ้าง สัญญาประมูล มันต้องวางหลักทรัพย์ประกันสัญญาก่อนในวันทำสัญญา ถึงจะลงนามในสัญญาได้
การทุจริตถุงมือยางครั้งนี้ จึงเป็นการโกงแบบหน้าด้านและผู้เกี่ยวข้องแกล้งโง่แบบบริสุทธิ์มาก
ตอนนี้ทราบว่า ผอ.อคส.คนที่ถูกกล่าวหาถูกย้ายไปอยู่สำนักนายกฯ ยังคงกินเงินเดือนอยู่จนถึงทุกวันนี้
ถ้าเรื่องถุงมือยาง500ล้านกล่องราคา112,000ล้านบาทที่เกิดทุจริตในอคส.เกิดในรัฐบาลอื่นและฝ่ายค้านมีหลักฐานชัดขนาดนี้ รัฐบาลคงอยู่ไม่ได้ แต่นี่เป็นรัฐบาลประยุทธ์ ประยุทธ์แค่บอกว่า ตัวเองไม่รับเงินสกปรก ตัวเองเป็นคนดีไปหาหลักฐานมา แค่นี้ก็จบแล้ว
อคส. ทำสัญญาซื้อถุงมือยางจากบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำนวน 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท เพิ่งจัดตั้งก่อนทำสัญญาเพียง 2 เดือนและมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ซึ่ง อคส.ต้องชำระเงินค่าสิ่งของล่วงหน้า 2,000 ล้านบาทให้กับผู้ขายภายใน 3 วัน ปรากฎว่ามีการกำหนดในหลักประกันสัญญา 200 ล้านบาทมอบให้กับผู้ซื้อภายใน 7 วัน จึงกลายเป็นว่าเมื่อรับเงินจาก อคส.ไปแล้ว 2 พันล้านบาท ก็นำเงินนั้นมาทอนคืนให้ อคส. ซึ่งผิดปกติวิสัยและเป็นเหตุผลที่มองได้ว่าเป็นการทำสัญญาลวง
.
ในสัญญาส่วนหนึ่งระบุเป็นการซื้อถุงมือยางไนไตร แต่สัญญาเดียวกันกลับระบุให้ผู้ขายส่งมอบถุงมือยางไนไตรและถุงมือยางลาเท็กซ์ ซึ่งเป็นคนละประเภทอย่างชัดเจน
.
อคส. ทำสัญญาซื้อถุงมือยางไนไตรและถุงมือยางลาเท็กซ์ กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ฯ แล้ว อคส.จะมีถุงมือยางไนไตรไปส่งมอบให้กับผู้สั่งซื้อทั้ง 7 สัญญาได้อย่างไร นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้มองได้ว่าเป็น “การทำสัญญาลวงเป็นฉากบังหน้า” เพื่อทุจริตนำเงิน 2 พันล้านบาท ออกจาก อคส.
.
ในสัญญาส่วนหนึ่งระบุเป็นการซื้อถุงมือยางไนไตร แต่สัญญาเดียวกันกลับระบุให้ผู้ขายส่งมอบถุงมือยางไนไตรและถุงมือยางลาเท็กซ์ ซึ่งเป็นคนละประเภทอย่างชัดเจน
.
อคส. ทำสัญญาซื้อถุงมือยางไนไตรและถุงมือยางลาเท็กซ์ กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ฯ แล้ว อคส.จะมีถุงมือยางไนไตรไปส่งมอบให้กับผู้สั่งซื้อทั้ง 7 สัญญาได้อย่างไร นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้มองได้ว่าเป็น “การทำสัญญาลวงเป็นฉากบังหน้า” เพื่อทุจริตนำเงิน 2 พันล้านบาท ออกจาก อคส.
พลเอกประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี หัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดิน ละเว้นการปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ด้วยความซื่อสัตย์ รอบคอบ ระมัดระวัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนในการปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ เงินจำนวน 2 พันล้านบาท
.
การกระทำผิดเกี่ยวโยงไปยัง นายจุรินทร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ กลับนิ่งเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อนไม่ดำเนินการใดๆ เพียงออกคำสั่งย้ายรักษาการ ผอ.อคส. กลับไม่ดำเนินการตรวจสอบและใช้อำนาจระงับยับยั้งการโอน ย้าย ถ่ายเทเงินของผู้ทุจริต ทั้งที่ พลเอกประยุทธ์สามารถที่จะอายัดเงินจำนวน 400 ล้านบาท
.
รายงานกรรมาธิการการพาณิชย์ ระบุว่าระหว่างวันที่ 2-25 ก.ย 2563 ยังมีเงินอยู่ในบัญชีของบริษัทและกรรมการบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำนวน 400 ล้านบาท แต่เพราะพลเอกประยุทธ์ฯ ไม่ดำเนินการตรวจสอบทำให้เงินจำนวน 400 ล้านบาท ถูกยักย้าย ถ่ายโอน หนีไปจนปัจจุบัน ไม่มีเงินคงเหลือที่จะอายัดได้
.
พลเอกประยุทธ์ ไม่แสดงออกให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ใช้ความระมัดระวังเพื่อรับฟังปัญหาและการติดตามแก้ไขปัญหา กลับนิ่งเฉย ปล่อยให้นายจุรินทร์ , ประธาน อคส. และ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์
.
การกระทำผิดเกี่ยวโยงไปยัง นายจุรินทร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ กลับนิ่งเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อนไม่ดำเนินการใดๆ เพียงออกคำสั่งย้ายรักษาการ ผอ.อคส. กลับไม่ดำเนินการตรวจสอบและใช้อำนาจระงับยับยั้งการโอน ย้าย ถ่ายเทเงินของผู้ทุจริต ทั้งที่ พลเอกประยุทธ์สามารถที่จะอายัดเงินจำนวน 400 ล้านบาท
.
รายงานกรรมาธิการการพาณิชย์ ระบุว่าระหว่างวันที่ 2-25 ก.ย 2563 ยังมีเงินอยู่ในบัญชีของบริษัทและกรรมการบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำนวน 400 ล้านบาท แต่เพราะพลเอกประยุทธ์ฯ ไม่ดำเนินการตรวจสอบทำให้เงินจำนวน 400 ล้านบาท ถูกยักย้าย ถ่ายโอน หนีไปจนปัจจุบัน ไม่มีเงินคงเหลือที่จะอายัดได้
.
พลเอกประยุทธ์ ไม่แสดงออกให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ใช้ความระมัดระวังเพื่อรับฟังปัญหาและการติดตามแก้ไขปัญหา กลับนิ่งเฉย ปล่อยให้นายจุรินทร์ , ประธาน อคส. และ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์
เมื่อมีผู้พบความผิดปกติของขบวนการนี้ (ความแตก) นายจุรินทร์ ละเว้นไม่ดำเนินการใดๆ ประธาน อคส. กับพวก ไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะกลัวนายสุชาติฯ จะเปิดเผยความจริงและพยายามตัดตอนเรื่องนี้ให้จบที่ ผอ.อคส.
.
แม้ต่อมาพลเอกประยุทธ์ จะสั่งย้าย รักษาการ ผอ.อคส.ไปประจำสำนักนายกฯ นายจุรินทร์ ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับประธาน อคส. และผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หรือติดตามเงินคืน
.
ทั้งหมดเป็นการวางแผนร่วมมือกันทุจริตอย่างเป็นระบบ เพื่อเอาเงินหลวงจาก อคส.มาเป็นประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง ซึ่งขณะนี้เงินหลวง 2 พันล้านบาทได้อันตรธานหายไป เป็นการ “ช่วยกันคิด แบ่งแยกหน้าที่กันทำ ร่วมกันหาประโยชน์ อย่างไร้ยางอาย”
.
แม้ต่อมาพลเอกประยุทธ์ จะสั่งย้าย รักษาการ ผอ.อคส.ไปประจำสำนักนายกฯ นายจุรินทร์ ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับประธาน อคส. และผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หรือติดตามเงินคืน
.
ทั้งหมดเป็นการวางแผนร่วมมือกันทุจริตอย่างเป็นระบบ เพื่อเอาเงินหลวงจาก อคส.มาเป็นประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง ซึ่งขณะนี้เงินหลวง 2 พันล้านบาทได้อันตรธานหายไป เป็นการ “ช่วยกันคิด แบ่งแยกหน้าที่กันทำ ร่วมกันหาประโยชน์ อย่างไร้ยางอาย”
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น